กินถั่ว 6 ชนิดช่วยให้อายุยืนได้
ถึงแม้ถั่วจะมีไขมันและแคลอรี่สูง แต่ผลจากงานวิจัยหลายชิ้นชี้ให้เห็นว่า คนที่บริโภคถั่วเป็นประจำ มีแนวโน้มจะมีรูปร่างผอม และมีความเสี่ยงต่ำในการเกิดโรคหลายโรค (เช่น โรคหัวใจ,โรคมะเร็งเต้านม เป็นต้น) เมื่อเปรียบเทียบกับคนที่ไม่กินถั่ว มีการตีพิมพ์วารสารทางการแพทย์ของประเทศอังกฤษ ซึ่งพบว่า การบริโภคถั่ววันละ 1 กำมือ จะสามารถยืดอายุของคุณให้ยาวนานขึ้น แต่จะมีถั่วชนิดไหนบ้างที่มีส่วนประกอบของเซลีเนียม (selenium ) สูง ซึ่งเชื่อกันว่าสารนี้มีคุณสมบัติในการยับยั้งการเกิดโรคมะเร็ง และถั่วชนิดไหนที่จะช่วยลดคลอเรสเตอรอลได้ ลองดูข้อมูลเหล่านี้นะคะ จะได้ทราบว่าถั่วที่ดีต่อสุขภาพ มีอะไรบ้าง
1. พีแคน ( Pecans )
มีรสอร่อยและสมกับเป็นถั่วอเนกประสงค์โดยแท้ ในปริมาณพีแคน 1 ออนซ์ ให้แคลอรี่ต่ำกว่า 200 กิโลแคลอรี่ และประกอบด้วยไฟเบอร์ถึง 3 กรัม มีวิตามินและแร่ธาตุมากกว่า 19 ชนิด รวมทั้ง วิตามินเอ อี แคลเซียม โพแตสเซียม และเหล็ก จากข้อมูลของ USDA พีแคนติดอยู่ในกลุ่ม TOP 20 อาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ ในงานวิจัยกล่าวว่า สารต้านอนุมูลอิสระ มีบทบาทในการลดการเกิดโรคเรื้อรัง เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคอัลไซเมอร์ และโรคที่เกี่ยวกับการสูญเสียการมองเห็น
นอกจากนี้ พีแคนยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยกรดโอเลอิค ซึ่งกรดไขมันนี้จะพบได้มากในน้ำมันมะกอก ซึ่งมีส่วนช่วยลดการเกิดมะเร็งเต้านมได้
2. เฮเซลนัท ( Hezelnuts )
เป็นถั่วยอดนิยมที่มักจัดเสริฟมาในจานเรียกน้ำย่อย และยังนิยมนำมาทำของหวาน ในเฮเซลนัท 1 ออนซ์ จะมีแคลอรี่อยู่ 180 กิโลแคลอรี่ ไฟเบอร์ 3 กรัม และยังเป็นแหล่งรวมของทองแดง แมกนีเซียม ไทอามิน และวิตามินอี เฮเซลนัทช่วยในการป้องกันการเกิดโรคหัวใจ
จากรายงานการวิจัยของสถาบันทางการแพทย์พบว่า การบริโภคเฮเซลนัททุกวันเป็นประจำ จะช่วยลดไขมันตัวไม่ดี (LDL) คลอเรสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์ได้
3. พิซทาชิโอ ( Pistachios )
เป็นถั่วอีกชนิดหนึ่งที่ให้แคลอรี่ และไขมันต่ำ เจ้าถั่วจิ๋วๆนี้ เป็นแหล่งรวมของวิตามินบี 6 ทองแดง และแมงกานิส และยังประกอบด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญต่อร่างกายอีกหลายชนิด ผลงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดรายงานว่า การบริโภคพิซทาชิโอ วันละ 1 กำมือ จะช่วยฟื้นฟูสุขภาพได้ดี และมีผลในการป้องกันโรคหัวใจ
4. แมคคาเดเมีย ( Macadamias )
มีบทบาทอย่างมากในการนำไปประกอบทำขนมหวานอันแสนอร่อย แมคคาเดเมียยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ในแมคคาเดเมีย 1 ออนซ์ จะให้แคลอรี่ต่ำกว่า 200 กิโลแคลอรี่ แมคคาเดเมียประกอบด้วยไขมันเชิงเดี่ยวสูง เป็นแหล่งรวมของไทอามิน และแมงกานิส การบริโภคทุกวันเป็นประจำ จะดีต่อสุขภาพของหัวใจ ผลการศึกษายังชี้ว่าจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจในคนป่วยที่มีปัญหาคลอเรสเตอรอลสูง
5. บราซิลนัท ( Brazil Nuts )
ถั่วชนิดนี้มีขนาดที่ใหญ่ที่สุด การบริโภคเพียง 1 ออนซ์ต่อวัน จะให้สารเซลีเนียม (selenium)มากถึง 8 เท่า ที่เราต้องการในแต่ละวัน เซลีเนียมคือสารต้านอนุมูลอิสระที่เชื่อกันว่า สามารถต้านการก่อตัวของมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง และยังมีคุณประโยชน์ในการช่วยสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงขึ้น รวมทั้งยังมีธาตุแมกนีเซียม ทองแดง และฟอสฟอรัสอยู่มากอีกด้วย แต่ถั่วชนิดนี้จะประกอบไปด้วยไขมันสูงมากกว่าถั่วชนิดอื่นๆ คือไขมันถึง 19 กรัมต่อหนึ่งหน่วยบริโภค ดังนั้นจึงไม่ควรบริโภคบราซิลนัทเพียงอย่างเดียว
6. วอลนัท ( Walnuts )
วอลนัท ถูกจัดอยู่ในกลุ่มอาหารชั้นยอด เพราะพวกมันประกอบด้วยกรดแอลฟ่า ไลโนเลนิค แอซิด ( alpha-linolenic acid (ALA))ในปริมาณที่สูง รวมทั้งยังมี โอเมก้า 3 ซึ่งเป็นกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย ใน 1 หน่วยบริโภค วอลนัทจะประกอบไปด้วย โปรตีน 4 กรัม และมีไฟเบอร์ 2 กรัม อีกทั้งยังให้แร่ธาตุอย่างเช่น แมกนีเซียม และฟอสฟอรัสอีกด้วย นอกจากคุณประโยชน์ทางด้านสุขภาพของหัวใจแล้ว ยังเหมาะสำหรับคนเป็นโรคเบาหวาน และยังช่วยลดการเกิดโรคมะเร็งบางชนิดได้อีกด้วย ถั่วมีประโยชน์มากมายขนาดนี้ แล้ววันนี้คุณกินถั่วหรือยังคะ ?