Brew Your Coffee Drink
กาแฟ เป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ปัจจุบันมีการปลูกกาแฟกันมากกว่า 70 ประเทศทั่วโลก กาแฟมีส่วนประกอบของคาเฟอีน มีสรรพคุณชูกำลัง ทำให้รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า เลยเป็นเหตุที่ทำให้หลายคนติดอกติดใจ และต้องดื่มเป็นประจำทุกวัน วิธีการชงกาแฟไม่ว่าจะเป็นแบบช้าๆ โดยการกรองเมล็ดกาแฟคั่วทิ้งไว้จนตกตะกอน แล้วค่อยนำมาดื่ม หรือชงโดยใช้เครื่องกดปุ่มก็ตาม เราจะได้กาแฟที่รสชาติแตกต่างกัน วันนี้ JM จะขอพาไปรู้จักกับเครื่องมือในการชงกาแฟที่เราสามารถหาซื้อมาชงดื่มเองที่บ้านได้ มีหลากหลายรูปแบบและวิธีการชง ลองเลือกดูนะคะว่าแบบไหนเหมาะกับเราที่สุด
ถ้วยชงกาแฟแบบหยด (Drip Brewer) อุปกรณ์มีเพียงถ้วยที่มีรูเล็กๆไว้สำหรับให้น้ำกาแฟหยด และตัวกระดาษกรองที่จะทำหน้าที่กักเก็บตะกอนของเมล็ดกาแฟคั่วไว้ เพียงคุณรินน้ำเดือดลงไปให้ชุ่ม เพื่อให้ผงกาแฟได้ซึมซับน้ำให้เต็มที่ น้ำกาแฟก็จะค่อยๆหยดลงไปในถ้วยด้านล่าง กาแฟที่ได้จะค่อนข้างใสและมีรสอ่อน แต่มีเคล็ดลับสำหรับการชงด้วยวิธีนี้คือ การค่อยๆรินน้ำเดือดลงไปในปริมาณที่เหมาะสม จะส่งผลต่อกลิ่นและรสของกาแฟ จึงนิยมใช้กาที่มีปากเรียวเล็ก เพราะจะสามารถควบคุมทิศทางและปริมาณน้ำที่รินลงไปได้ง่ายขึ้น
เครื่องชงกาแฟแบบฝรั่งเศส (French Press) เครื่องชงแบบฝรั่งเศสนี้ มีวิธีการใช้ที่ไม่ซับซ้อน ประดิษฐ์ขึ้นโดยชาวอิตาเลียน แต่ถูกนำไปผลิตในประเทศฝรั่งเศส กลายเป็นที่นิยมและใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วยุโรป ด้วยวิธีการชงอันแสนจะง่ายดาย เพียงเติมกาแฟคั่วบดหยาบลงไปในถ้วยบีคเกอร์ ตามด้วยน้ำเดือดแล้วทิ้งไว้ประมาณ 4 นาที (อัตราส่วนประมาณกาแฟ 28 กรัม ต่อน้ำเดือด 450 มิลลิลิตร) แล้วกดก้านลูกสูบที่มีแผ่นตะแกรงกรองกากกาแฟ เพื่อดันให้กาแฟบดลงไปอยู่ที่ก้นแก้ว รินกาแฟที่ได้ลงในถ้วย ไม่ควรทิ้งให้กาแฟแช่น้ำนานเกินเวลา เพราะจะทำให้มีรสขมและฝาด แต่ถ้าต้องการชงเป็นกาแฟเย็น ควรจะแช่ทิ้งไว้เป็นเวลานานๆ เพื่อให้น้ำมันหอมระเหยในตัวกาแฟได้ออกมามากขึ้น จะได้รสชาติที่เข้มข้น และหอมกรุ่น
กาต้มกาแฟ (Moka Pot) Moka Pot ถูกประดิษฐ์ขึ้นโดยชาวอิตาเลียนในปี ค.ศ.1931 ในยุคที่ศิลปะ และอุตสาหกรรมกำลังเบ่งบาน กลายมาเป็นสัญญลักษณ์อันสุดแสนจะคลาสสิคของอิตาลี ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่ชงกาแฟได้อร่อยที่สุด เดิมทีนั้นวัสดุที่ใช้เป็นอะลูมิเนียม มีกลไกง่ายๆด้วยการแบ่งกาต้มน้ำออกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกอยู่ด้านล่างสุดไว้ใส่น้ำเปล่า ส่วนที่ 2 ใส่กาแฟบดหยาบ และส่วนที่ 3 คือด้านบนสุด มีไว้รองรับน้ำกาแฟที่จะพวยพุ่งขึ้นมาเวลาเดือด พร้อมกับเสียงดังปุดๆ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเครื่องชงแบบนี้ การต้มกาแฟด้วย moka pot นี้ ใช้ทำกาแฟเอสเพรสโซสุดเข้มข้น อาจจะเข้มข้นมากกว่าเครื่องชงเอสเพรสโซเสียอีก ขึ้นอยู่กับ เมล็ดกาแฟ วิธีการบด และระดับความร้อนของน้ำ
เครื่องชงกาแฟแบบเอสเพรสโซ (Espresso Machine) นี่คือนวัตกรรมการชงกาแฟที่คิดค้นขึ้นมาล่าสุดในศตวรรษที่ 20 หลักการของเครื่องนี้คือ การปล่อยแรงดันไอน้ำเมื่อใกล้ถึงจุดเดือด ผ่านกาแฟคั่วบดละเอียดและกลั่นเอาความเข้มข้นของกาแฟด้วยปริมาณน้ำที่น้อยที่สุด กาแฟที่ได้ออกมาคือ "เอสเพรสโซ" ในปัจจุบันนี้มีการพัฒนาเครื่องชงเอสเพรสโซ ให้มีความหลากหลายในการชง เพื่อให้ได้กาแฟที่มีรสชาติเข้มข้นมากขึ้น วิธีการชงเครื่องเอสเพรสโซ ค่อนข้างมีรายละเอียด เริ่มตั้งแต่การบดเมล็ดกาแฟให้พอเหมาะกับเครื่องชง จากนั้นอัดผงกาแฟที่หัวก้านชง ซึ่งมีขนาด 1 และ 2 ช็อต(ขนาดของช็อต หมายถึง ความเข้มข้นที่มากขึ้น) แล้วใส่ก้านชงกลับเข้าเครื่อง ก่อนจะเปิดเครื่องให้แรงดันไอน้ำไหลผ่านกาแฟคั่วบด โดยใช้เวลาเพียง 20-30 วินาที เพราะจะได้กาแฟรสชาติเข้มข้นที่สุด หากปล่อยให้นานกว่านี้ กาแฟที่ได้จะมีรสจางลง และรสชาติอันซับซ้อนของเอสเพรสโซจะหายไป พอจะได้ทราบกันแล้วนะคะว่า เครื่องชงแต่ละแบบมีวิธีการทำงานอย่างไร หวังว่าเพื่อนๆจะหาเครื่องชงกาแฟที่เหมาะกับกาแฟถ้วยโปรดใบเล็กๆของเรา และคนอื่นๆในครอบครัวได้แล้วนะคะ