คืนความสวยงามให้แก่บรรดาเฟอร์นิเจอร์สนาม
ต้อนรับฤดูแห่งความสดใส ด้วยการนำเฟอร์นิเจอร์สำหรับใช้งานนอกบ้านออกมาทำความสะอาด เพื่อคืนความสวยงามให้แก่มัน และมาเรียนรู้วิธีดูแล เพื่อยืดอายุการใช้งานให้ยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์หวาย ไม้ พลาสติก หรือโลหะ ถ้าได้ปฎิบัติดูแลตามคำแนะนำอย่างถูกวิธี รับรองว่าเฟอร์นิเจอร์ของคุณจะดูสวยงามนานแรมปีได้เลยทีเดียวค่ะ คำแนะนำทั่วๆไป ควรอ่านคำแนะนำของผู้ผลิตเสมอก่อนการลงมือทำความสะอาด เพราะการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ไม่เหมาะสมอาจส่งผลร้ายต่อเฟอร์นิเจอร์ได้ เริ่มต้นด้วยการใช้แปรงขนสั้นๆนิ่มๆทำความสะอาดบนพื้นผิวเท่าที่จำเป็น และล้างออกด้วยน้ำสะอาด ผสมน้ำยาล้างจาน 1/4 ถ้วย และน้ำอุ่น 1 แกลลอน ใช้ฟองน้ำหรือแปรงขนสั้นนิ่มๆ ขัดผิวเฟอร์นิเจอร์ให้ทั่ว แล้วจึงล้างออก และใช้ผ้าไม่มีขุยเช็ดให้แห้ง อย่าซักล้างด้วยเครื่อง หรือใช้สารฟอกขาวที่มีคลอรีน น้ำมันสน หรือน้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์กัดกร่อน เว้นแต่ในคำแนะนำระบุไว้เท่านั้น ใช้กระดาษทรายขัดเบาๆ เพื่อขจัดเชื้อรา หรือขัดทำความสะอาด โดยดูจากลักษณะของวัสดุ สวมถุงมือ และทิ้งอุปกรณ์ที่ใช้แล้ว เพื่อเลี่ยงการกระจายของเชื้อรา เมื่อไม่ใช้งานควรคลุมเฟอร์นิเจอร์ให้มิดชิด หรือเก็บไว้ในบ้าน ถอดที่ครอบขาเก้าอี้และโต๊ะ และควรตั้งเฟอร์นิเจอร์ในแนวตั้งเพื่อให้น้ำที่ขังระบายออกได้ ได้ทราบวิธีดูแลและทำความสะอาดเบื้องต้นกันแล้วนะคะ ทีนี้เรามาเจาะลึกวิธีดูแลเฟอร์นิเจอร์ในแต่ละชนิดกันดีกว่าค่ะ
1. หวาย (Wicker) รวมถึงพวกวัสดุที่ดัดงอได้ เช่น กก กระดาษเคลือบ ที่อาจเสริมความแข็งแรงด้วยโลหะ การเคลือบพื้นผิวหวายมักใช้น้ำมันชักเงาใสๆ หรือทาสี หรือทำทั้งสองอย่าง จะช่วยปกป้องพื้นผิวได้ ควรตั้งเฟอร์นิเจอร์ประเภทหวายในบริเวณที่มีหลังคาคลุม การทำความสะอาด > ควรใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีหัวแปรงปัดฝุ่น หรือใช้แปรงทาสีแห้งๆ ปัดเพื่อขจัดฝุ่นละอองต่างๆออก และใช้น้ำสบู่อ่อนๆทำความสะอาด จากนั้นล้างออกและเช็ดให้แห้ง หลีกเลี่ยงการใช้น้ำปริมาณมาก เพราะจะทำให้เส้นใยของหวายเปราะ การดูแลรักษา > โดยทั่วไป วัสดุประเภทนี้ไม่ทนต่อสารที่รุนแรง หรือมีฤทธิ์กัดกร่อน ให้ใช้กระดาษทรายละเอียดขัดพื้นผิวเบาๆ เพื่อขจัดสีที่หลุดร่อน และใช้สีซ่อมรอยถลอกของเฟอร์นิเจอร์ เท่าที่จำเป็น
2. เฟอร์นิเจอร์ไม้ (Wood) ไม้ที่นำมาทำเฟอร์นิเจอร์นอกบ้าน ส่วนใหญ่จะทนทานต่อการผุกร่อนและสภาพอากาศ แม้น้ำยาจะช่วยถนอมสีของไม้ และป้องกันการผุกร่อนได้ แต่ไม่ใช่สิ่งจำเป็นมากนัก ส่วนไม้ที่ยังไม่ได้ขัดเงา เมื่อใช้ไปนานๆ จะมีความมันวาว เป็นสีเทาออกเงิน จำเป็นต้องดูแลเอาใจใส่ การทำความสะอาด > การขจัดคราบสกปรกหรือเชื้อรา ให้ผสมน้ำร้อน 1 แกลลอน กับสารฟอกขาวแบบผง ใช้แปรงขนสั้นนุ่มๆขัดบริเวณที่มีคราบ และล้างออก การขจัดคราบสนิมหรือมูลนก ให้ขัดเบาๆด้วยกระดาษทรายละเอียดตามลายเนื้อไม้ ถ้าคราบใหญ่เกินกว่าที่จะขัด ให้ผสมน้ำร้อนกับผลึกกรดอ๊อกซาลิก(หรือสารฟอกสีไม้) ใช้แปรงขนสั้นนุ่มๆทา และล้างออก อย่าใช้สารฟอกขาวที่มีคลอรีน เพราะจะไปทำลายเส้นใยไม้ การดูแลรักษา > การยาผิวไม้จะช่วยป้องกันรังสีอุลตร้าไวโอเลต ฝุ่นละออง และความชื้น ก่อนอื่นต้องทำความสะอาดพื้นผิว และใช้กระดาษทรายขัดน้ำยาขัดเงาที่มีอยู่ออก และทาสีซ่อมรอยถลอกเท่าที่ต้องการ ทาน้ำยาเคลือบไม้แบบกันน้ำ ที่มีสารกำจัดเชื้อราผสมอยู่ ควรทาซ้ำทุกๆ 1-3 ปี
3.โลหะ (Metal) เหล็ก เหล็กกล้า อลูมิเนียม และโลหะอื่นๆ สามารถหลอมและตีขึ้นรูปได้ หรืออาจหล่อขึ้นจากแม่พิมพ์ มักหล่อเป็นเหล็กตันๆ หรือทำเป็นท่อกลวงๆ เพราะโลหะเหล่านี้ส่วนใหญ่ (ยกเว้นอลูมิเนียม) จะเกิดสนิม ปรกติเฟอร์นิเจอร์โลหะจะเคลือบด้วยน้ำมันชักเงาหลายชั้น หรือทาสี หรือเคลือบสีผงที่ทนทาน การทำความสะอาด > ใช้น้ำสบู่อ่อนๆขัดและล้างออก เช็ดให้แห้ง การกำจัดคราบสนิมหรือเชื้อรา ใช้กระดาษทรายละเอียดขัดบริเวณที่เป็นสนิมหรือเชื้อราเบาๆ แล้วเช็ดให้สะอาด ทาสีซ่อมรอยบางๆหลายชั้นถ้าต้องการ โดยรอให้สีแห้งก่อนจะทาทับอีกชั้น ความชื้นอาจมีผลต่อสี ดังนั้นควรจะทาสีในวันที่อากาศแห้ง การดูแลรักษา > หลังทำความสะอาด ให้ทาน้ำยาเคลือบคุณภาพดี หรือแวกซ์ขัดเงารถยนต์ ด้วยผ้าที่ไม่เป็นขุย ฉีดสเปรย์ซิลิโคนหล่อลื่นหัวต่อหมุน และล้อเล็กๆที่ติดปลายขาเก้าอี้ หมั่นตรวจหาสนิมหรือรอยบิ่น โดยเฉพาะในบริเวณที่มองไม่ค่อยเห็น ซึ่งพื้นผิวอาจจะไม่ได้เคลือบมัน (แม้แต่สเตนเลสก็ยังกร่อนได้ในสภาพแวดล้อมที่มีไอเค็ม)
4. พลาสติก (Plastic) โดยทั่วไป เรซิ่นหรือเฟอร์นิเจอร์ที่ทนทุกสภาพอากาศจะทำมาจากพลาสติก ทั้งจากโพลีไวนิลคลอไรด์ (PVC) และโพลีเอทีลีน (PE) พลาสติกเหล่านี้ผลิตมาพร้อมกับสารเติมแต่งที่เป็นสารเคมี สารกรองรังสีอุลตราไวโอเลต และสารฆ่าเชื้อรา สามารถดัดเป็นรูปร่างเลียนแบบไม้ หวาย และวัสดุอื่นๆ เช่นสายคาดที่นำมาสานเป็นเก้าอี้ และสายโยงต่างๆ การทำความสะอาด > ใช้น้ำสบู่อ่อนๆขัดและล้างออก แล้วเช็ดให้แห้ง สำหรับคราบสกปรก หรือเชื้อราที่ฝังแน่น ลองใช้น้ำยาที่มีน้ำ 10 ส่วนต่อสารฟอกขาวที่มีคลอรีน 1 ส่วน (ถ้าคำแนะนำการดูแลระบุว่าสารฟอกขาวเป็นน้ำยาทำความสะอาดที่ผ่านการรับรอง) การดูแลรักษา > ครีมทาป้องกันแสงแดดที่ตกค้างอาจทำให้พลาสติกบางอย่างสีซีดได้ ดังนั้น หลังจากถูกแดด ควรใช้ผ้าเปียก และน้ำสบู่อ่อนๆเช็ดเฟอร์นิเจอร์ทันที
5. ผ้า (Fabric) ผ้าที่ใช้สำหรับงานนอกบ้าน มักจะได้รับการออกแบบมาให้ทนทานต่อแสงแดด คราบสกปรก ความชื้นและเชื้อรา ผ้าที่ผ่านการย้อมน้ำยา ทอด้วยเส้นใยที่แช่สีย้อม มีแนวโน้มจะซีดน้อยกว่าและสามารถใช้น้ำยาทำความสะอาดที่แรงกว่าผ้าพิมพ์ หรือผ้าที่ย้อมหลังจากทอ เมื่อจะตัดสินใจเลือกผ้า ให้ดูตรวจสอบเนื้อผ้าทั้ง 2 ด้าน ถ้าทั้ง 2 ด้านเหมือนกัน อาจจะเป็นผ้าย้อมน้ำยา การทำความสะอาด > บางครั้งผ้าคลุมที่ถอดออกได้สามารถซักด้วยเครื่องซักผ้าในน้ำเย็น ใช้น้ำยาซักผ้าที่ปราศจากสารฟอกขาว แล้วผึ่งลมให้แห้ง ส่วนการทำความสะอาดเชื้อราจากผ้าย้อมน้ำยา ให้ผสมน้ำอุ่น 1 แกลลอน กับสารฟอกขาว 2 ช้อนโต๊ะ พรมน้ำในบริเวณที่มีคราบเปียก และใช้แปรงขนสั้นนุ่มๆ ขัด ล้างออก และผึ่งลมให้แห้ง การดูแลรักษา > หมั่นปัดฝุ่นละอองและเศษต่างๆเป็นประจำ และล้างเท่าที่ต้องการ เช็ดรอยคราบและรอยเปื้อนทันทีด้วยผ้าเปียกและน้ำสบู่อ่อนๆ ผ้าบางอย่างจะเคลือบผิวกันน้ำ การบำรุงรักษาเคลือบผิวบนผ้า ให้ทำความสะอาดผ้าและตากให้แห้ง แล้วทาน้ำยาเคลือบผ้า (Fabric protector) เช่น 303 High Tech Fabric Guard (ไม่เหมาะกับไวนิล หรือพลาสติก) ต้องรอให้แต่ละชั้นแห้งก่อนทาทับ ควรทำซ้ำปีละครั้ง หรือเมื่อใดก็ตามที่น้ำไม่ก่อตัวเป็นหยดกลมๆบนพื้นผิวแล้ว พอรู้เคล็ดลับในการทำความสะอาด และดูแลรักษาเฟอร์นิเจอร์นอกบ้านกันไปแล้วนะคะ หวังว่าจะได้ประโยชน์กันบ้างไม่มากก็น้อย วันนี้ขอไปก่อน BYE KA.... >ขอขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก http://www.marthastewart.com/ <